5 วิธีสุดเจ๋ง! รับมืออาการ Jet Lag (เจ็ทแลค)

มีนาคม 5, 2020 | by phumthai

“Jet Lag (เจ็ทแลค)” คำคุ้นหูนี้ ไม่ได้มีไว้พูดให้ดูเก๋ๆ ยามกลับจากทริปยุโรปนะคะ ^^ แต่ Jet Lag คือ อาการที่มักเกิดขึ้นจริงเมื่อเราต้องเดินทางทัวร์ยุโรป หรือประเทศที่มีเวลาแตกต่างจากบ้านเรามากๆ อาจเรียกว่า “อาการเมาเวลา” หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า อาการเจ็ทแลคนี่แหละค่ะ เป็นอาการของผู้เดินทางข้ามเส้นแบ่งเวลาของโลก (Time zone) ซึ่งเป็นเส้นที่ใช้กำหนดเวลาของแต่ละภูมิประเทศในโลก จึงเกิดผลกระทบต่อระบบนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย (Circadian Rhythm) ดังนั้นหากเราไม่เตรียมรับมือกับอาการนี้ไว้ก่อน ทริปของคุณก็อาจจะสนุกน้อยลงแน่ๆ เพราะคุณจะเกิดอาการง่วง หาว เบลอๆ และหลงลืมไปชั่วขณะ ดังนั้นถ้าไม่อยากเจออาการแบบนี้ เรามาดู 5 วิธีสุดเจ๋ง! รับมืออาการ Jet Lag กันเลยค่ะปรับเวลาการเข้านอน เพื่อป้องกัน Jet Lag

1. ปรับเวลาการเข้านอน และพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อนการเดินทางเราควรปรับเวลาการเข้านอนเตรียมรับมือ Jet Lagโดยการเลื่อน หรือปรับเวลาการนอนของคุณ เพียงวันละหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการปรับเวลาเข้านอนให้ไวขึ้น หรือช้ากว่าปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาท้องถิ่นในประเทศที่คุณกำลังจะเดินทางไป และควรพักผ่อนให้เต็มที่ นอนหลับให้เต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสมดุล และหลีกเลี่ยงอาการป่วยก่อนการเดินทางอีกด้วย

ยาเมลาโทนิน (MELATONIN)2. ยาเมลาโทนิน (MELATONIN)สำหรับข้อนี้ ขอแนะนำสำหรับคนที่มีอาการ Jet Lag จนนอนไม่หลับจริงๆ เท่านั้นนะคะ ซึ่งยาเมลาโทนิน มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาในระยะสั้นๆ เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับที่มีลักษณะคุณภาพของการหลับไม่ดี ควรรับประทานยาเมลาโนนินก่อนนอนประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนการเดินทาง จะช่วยให้ร่างกายคุณจัดการกับเวลาที่เปลี่ยนไปได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

การนอนบนเครื่องบิน มีผลต่ออาการ Jet Lag3. การนอนบนเครื่องบินหลายคนอาจจะสงสัยว่าเราควรนอนบนเครื่องบินดีหรือไม่? คำถามนี้ตอบได้เลยง่ายๆ ว่า สามารถนอนได้ หากเป็นไฟลต์บินในช่วงเวลากลางคืนที่จะถึงที่หมายในเวลาเช้า แต่ถ้าหากคุณบินไฟลต์ช่วงเช้า และถึงจุดหมายในเวลาเย็น การนอนระหว่างเดินทางในช่วงกลางวัน อาจส่งผลให้คุณต้องพบเจอกับอาการ Jet Lag ที่รุนแรงมากขึ้นนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าเผลอเชียว!

ดื่มน้ำมากๆ เพราะร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติบนเครื่องบิน 4. ดื่มน้ำมากๆน้ำเปล่า คือ สิ่งที่ดีที่สุดขณะเดินทางอยู่บนเครื่องบิน เพราะอากาศที่แห้งบนเครื่องบิน จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ และเกิดการขาดน้ำ อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลียเพิ่มขึ้นได้ หากเป็นไปได้ให้เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หรือเเอลกฮอล์ระหว่างเดินทางนะคะ

ออกไปอยู่กลางแจ้ง ช่วย อาการ Jet Lag5. ออกไปอยู่กลางแจ้งเพราะการออกไปอยู่กลางแจ้งจะช่วยให้นาฬิกาในตัวเราปรับตัวได้เร็วขึ้น และแสงแดดในช่วงเวลากลางวันยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดทอนอาการเหนื่อยล้า และอาการเบื่อหน่ายได้อีกด้วย ดังนั้นถึงที่หมายเมื่อไหร่ ก็ออกลุยกลางแจ้งกันไปเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : reigninter.com

mascot
จองผ่านไลน์
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์